ไฟสัญญาณเดินเรือ เป็นไฟที่ช่วยให้ผู้คุมเรือรับรู้ว่ามีเรืออยู่ใกล้ๆ และเรือลำไหนเป็นเรือที่ต้องหลบทางให้ในตอนกลางคืน หรือตอนที่ไม่สามารถมองเห็นเรืออีกลำได้ เช่นตอนที่หมอกหนาจัด หรือฝนตกหนัก เพื่อป้องกันการชนกันในทะเล (COLREG) นอกจากนี้ ไฟสัญญาณเดินเรือยังสามารถบอกขนาด ประเภท และสถานะของเรือได้อีกด้วย
ไฟสัญญาณเดินเรือ มีหลายสี ได้แก่ สีขาว สีเขียว สีแดง สีเหลือง และสีน้ำเงิน โดยไฟสัญญาณเหล่านี้จะต้องอยู่ในการรับผิดชอบของเจ้าของเรือหรือ ผู้คุมเรือเท่านั้น
ตามกฎการเดินเรือสากลแล้ว เรือจะต้องเปิดไฟสัญญาณเดินเรือตลอดตั้งแต่เย็นจนเช้า ไม่ว่าสภาพอากาศวันนั้นจะดีหรือไม่ก็ตาม และไฟจะต้องอยู่ตามจุดของมัน โดยจะต้องไม่มีไฟที่ไม่เกี่ยวข้องเปิดอยู่เพื่อไม่ให้เกิดการเข้าใจผิดระหว่างเดินเรือ โดยความสว่างตามกฎการเดินเรือสากลดังภาพ
นอกจากไฟนำทางแล้ว ยังมีไฟอีกมากมายที่เราต้องเรียนรู้เช่น ไฟดำน้ำ ไฟของเรือประมง หรือไฟเรือขุดเจาะน้ำมัน
วิธีสังเกตง่ายๆคือ ไฟดำน้ำ จะเป็นลักษณะเหมือนไฟยอดที่มีสีแดง-ขาว-แดง ตามลำดับ เราจะต้องอยู่ห่างไฟแบบนี้และระมัดระวัง เนื่องจากมีคนกำลังดำน้ำอยู่ในบริเวณน้ำนั้นๆ ส่วนไฟสีเขียวที่อยู่บนไฟสีขาว อาจจะเป็นเรือประมงที่กำลังลากอวน ซึ่งเราไม่จำเป็นต้องหลบเรือพวกนี้ แต่ระมัดระวังไม่ให้เรือของเราโดนอวน และหากพบว่ามีเพียงไฟสีขาวเพียงอยู่ลำพัง ให้คาดเดาว่าเรือลำนั้นกำลังทอดสมออยู่
ไฟสัญญาณเดินเรือ มีอยู่ 7 ประเภท มีอะไรบ้าง?
1. Sidelights หรือ ไฟข้าง โดยไฟสีแดงจะอยู่กราบซ้ายของเรือ ส่วนไฟสีเขียวจะอยู่กราบขวาของเรือ ซึ่งไฟข้างนี้จะช่วยให้เรือลำอื่นที่มาจากด้านข้างหรือด้านหน้ามองเห็นได้ และทำให้รู้ว่าลำไหนต้องให้ทาง โดยเรือฝั่งขวามักจะได้ไปก่อน ในขณะที่เรือลำซ้ายจะต้องให้ทาง ดังนั้นหากเราเห็นไฟเรือลำข้างหน้าเป็น สีแดง แสดงว่าเราจะต้องให้ทางเรือลำนั้นก่อน
2. Sternlight (aft) หรือ ไฟท้ายเรือ มีสีขาว จะสามารถมองเห็นได้เพียงบริเวณด้านหลังเรือเท่านั้น
3. Masthead Light หรือ ไฟยอด มีเพียงสีขาวเท่านั้น โดยจะส่องไปทั้งด้านหน้าและด้านข้างทั้ง 2 ด้าน ซึ่งเรือยนต์จะต้องมีไฟยอดทุกลำ และหากเรือยาวมากกว่า 50 เมตร จะต้องติดไฟยอดทั้งหมด 2 ดวงโดยดวงที่อยู่ท้ายเรือต้องสูงกว่าดวงที่อยู่บริเวณหน้าเรือ
CLASSIC 12 COMBINATION MASTHEAD AND DECK LIGHTS
4. All-Round White Light หรือ ไฟแบบมองเห็นรอบทิศ ไฟชนิดนี้จะมี ทั้งไฟยอดและไฟท้ายในตัว ใช้ได้สำหรับเรือยนต์ที่ยาวน้อยกว่า 12 เมตร โดยจะติดตั้งเหนือไฟข้างอย่างน้อย 1 เมตร บริเวณกึ่งกลางเรือ
5. Towing light หรือ ไฟลากจูง มีการใช้งานเหมือนไฟท้ายเรือ เพียงแต่เป็นไฟสีเหลือง เป็นไฟสำหรับให้สัญญาณว่ากำลังลากจูงเรืออื่นอยู่ และจะติดตั้งอยู่บนไฟท้ายของเรือ
6. Flashing light หรือ ไฟกะพริบ เป็นโคมไฟที่มีได้ทั้งสีขาว, สีเหลือง, สีเขียว หรือสีแดง กะพริบเป็นจังหวะละ 120ครั้ง ต่อนาที โดยจะติดตั้งไฟสัญญาณบนไฟยอด เพื่อสำรองไว้สำหรับเวลาไฟนำทางดับ หรือชำรุดกลางคันในขณะอยู่กลางทะเล
7. Special Flashing Light หรือ ไฟสัญญาณกะพริบเฉพาะงาน เป็นไฟที่มีเพียงสีเหลือง และจะกะพริบเพียง 50-70 ครั้งต่อนาที ซึ่งจะติดตั้งอยู่บริเวณที่ตรงหัวและท้ายของสิ่งที่ถูกลากจูง/แนวอวน/แนวเขื่อน
การจำนวนไฟสัญญาณเดินเรือของเรือแต่ละชนิดก็จะไม่เหมือนกัน แต่ตามหลักแล้วเรือแต่ละลำควรจะมีไฟข้าง ไฟท้ายเรือ และ ไฟยอด ติดตั้งดังรูป
ในปัจจุบัน นอกจากไฟสัญญาณเดินเรือเหล่านี้แล้ว ก็ยังมีเรด้าร์, AIS และเทคโนโลยีอื่นๆอีกมากมายที่สามารถช่วยป้องกันไม่ให้เกิดอุบัติเหตุทางทะเลอีกด้วย แต่ถึงกระนั้นไฟสัญญาณก็เป็นสิ่งที่สำคัญเป็นอย่างมากที่จะต้องมีก่อนออกเดินเรือ เพราะหากไม่มี จะทำให้เรือของเรามีโอกาสสูงมากที่จะชนกับเรือลำอื่นในทะเล ดังนั้นเราควรจะติดตั้งไฟสัญญาณเดินเรือให้กับเรือของเรา เพื่อให้เรือของเราเดินทางได้อย่างปลอดภัย และถูกกฏหมาย